มีอยู่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่สุดในโลกใบนี้ นั่นก็คือต้นไม้ แล้วต้นไม้เป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง เมื่อเราเพิกเฉยต่อธรรมชาติ เมื่อนั้นเราก็จะขาดการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ หากเราสังเกตกันให้ดี ๆ ชีวิตก็ไม่ได้แตกต่างจากต้นไม้เท่าไหร่นัก มันมาเน้นย้ำว่า ชีวิตคือสิ่งเดียวที่มีรากฐานอันสำคัญมาจากต้นไม้ แล้วต้นกำเนิดของธาตุทั้งสี่ก็ย่อมขาดจากธรรมชาติไปมิได้เลย สังเกต รับรู้ น้อมนำ แล้วก็พักพิงไปกับต้นไม้ใหญ่.
ความสุขที่ปราศจากการเชื่อมโยงกับต้นไม้ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ว่าจะมาเป็นต้นไม้ใหญ่ก็ต้องเป็นต้นกล้าก่อน ต้นไม้เล็ก ๆ ริมทางก็กลับกลายมาเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ในเบื้องหน้า ความหมายของชีวิตก็จะเนื่องด้วยจากต้นไม้ใหญ่นี่เอง ไม่ว่าเราจะทุกข์ใจแค่ไหน หรือมีความสุขอันเอ่อล้นเพียงใด ต้นไม้ก็ย่อมทำหน้าที่ของมันโดยที่มันไม่เคยคิดที่จะบ่น ก่นด่า รวมไปถึงตัดพ้อใด ๆ กับสิ่งที่สิ่งมีชีวิตนั้นกระทำกับมันเลย.
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ก็มักจะมีต้นไม้เป็นส่วนประกอบหลัก ถ้าพูดถึงสิ่งมีชีวิตโดยรวม เราก็คงต้องเรียนรู้เรื่องระบบนิเวศ แล้วระบบของสิ่งแวดล้อมนี้ก็ย่อมทำความเข้าใจว่า มันเกิดมาเพื่อสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งทุกอย่าง ปราศจากมัน ก็ไม่มีเราในวันนี้ แถมสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ถัดจากต้นไม้ก็ย่อมมลายหายไปอย่างแน่นอน.
วันนี้เริ่มต้นที่จะดูแลจิตใจตนเอง พอดูแลจิตใจตนเองได้แล้วก็เริ่มที่จะดูแลธรรมชาติแวดล้อมรอบข้างเราบ้าง เลิกโทษสิ่งอื่น แต่ให้ฝึกฝนที่จะเข้าใจสิ่งแวดล้อมให้ง่ายขึ้น ธรรมชาติจะมาเป็นมิตรกับเราก็เมื่อเราเริ่มต้นที่จะเป็นมิตรกับตนเองก่อน พอเราเป็นมิตรกับตนเองได้อย่างแท้จริง ต้นไม้ใบหญ้าก็ย่อมมาเป็นกัลยาณมิตรกับเราสืบไป.
จงทำตัวเองให้เหมือนต้นไม้ใหญ่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่สูงใหญ่ตระหง่านตาเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นจะต้องเป็นที่พักพิงให้กับลูกหลาน หรือสิ่งมีชีวิตอื่นด้วย รวมไปถึงต้นไม้ใหญ่ก็มักจะมีรากแก้วที่แข็งแรง เปรียบเสมือนชีวิตที่พร้อมเผชิญหน้ากับอุปสรรคเต็มที่อย่างไม่รีรอ เมื่อถึงเวลาที่ต้องสู้ก็จำเป็นต้องสู้ ไม่บ่น ไม่ก่นด่า แล้วกลับกลายเป็นทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ อดทน แล้วก็มุ่งมั่นเพื่อยืนหยัดต่อไปได้ตราบนานเท่านาน.
ความสุขของชีวิตจำเป็นจะต้องมีจิตใจที่เชื่อมโยงกับต้นไม้ เพราะถ้าหากขาดมันชีวิตก็ย่อมจืดจางไป
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ